คืนหลังวันมีทติ้งชาริตี้
ผึ้งจำได้ว่า น้องใหม่คนนึงทีี่ผึ้งชวนไปมีทติ้งด้วยกัน
หลังไมค์มาบอกว่า สิ่งที่ได้ฟัง ทำให้ผมรู้ว่า
การเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุนไม่ได้ยากจนเกินไป
เนื้อหาในวันนี้ทำให้ผมเข้าใจว่า พวกพี่ทำอะไรกันบ้างก่อนลงสนามจริง
ผมคิดว่า จริงๆ มันไม่ได้ยากที่จะทำตาม และผมจะพยายามทำให้ได้คับ
ความรู้สึกแรกคือ หัวใจมันฟูนิดๆ เหมือนเทียนที่เราจุด กำลังหมดแท่ง
แล้วมีคนมาบอกเราว่า มีเทียนอีกแท่งและอยากลองจุดดู
คล้อยหลังได้ไม่นาน โค้ชชลฝากชมสไลด์ทีม Lotto War ว่าทำดีมาก
ฝากให้กำลังๆ ทีมงานด้วย แหม…ที่เหนื่อยยากกันมา หายเป็นปลิดทิ้ง
ส่วนน้องทีมสามหลังไมค์มาบอกว่า
พี่คนนึงมาขอสไลด์ไปบอกว่าอยากเอากลับไปให้คนที่บ้านดู
เพราะมันชวยเปิดโลกการลงทุนในแง่มุมที่เค้าไม่เคยรู้มาก่อน
มันเหมือนสิ่งที่เราลงแรงทำไป มันเป็นประโยชน์กับคนอื่นอย่างแท้จริง
น้องบอกภูมิใจมาก ดีใจมาก ….มาถึงตรงนี้ หัวใจพองกันเลยทีเดียว
สรุปเป็นความภาคภูมิใจของกำเนิดห้อง 13 แบบเกินคาดฝัน
= = = = =
และแล้ว…เมื่อสองวันก่อนโค้ชยะก็พยายามตื้อว่า ช่วยรับศิษย์พี่ของเขาเพิ่มสักคน
เอาไปไว้ห้องไหนก็ได้ เพราะห้อง 13 อาจไม่เหมาะ เพราะไฟที่เดี๋ยวมอดเดี๋ยวติดเอาแน่นอนยังไม่ได้
(ไม่รุว่าคนฝากฝังไม่แน่ใจ หรือไม่ก็พอรุระดับนึงว่า เคมีคนที่ฝากฝังมาน่าจะยังไม่ผ่านเกณฑ์ห้อง 13
เลยมาต่อรองว่า เอาไปแปะไว้ที่ ห้อง 14 From Poll หรือห้องไหนก่อนก็ได้
เพราะเหมือนรอบนี้เค้าอยากจะกลับมาลงสนามอีกรอบจริงๆ
ก็ได้แต่ฟังไป ไม่ได้รับปากอะไร เพราะในใจไม่ได้คิดว่า
คุณสมบัติที่เจ้าตัวมีอยู่จะเหมาะกับที่แห่งหนไหนเลยสักแห่ง
เสียงเบาๆ ในสายลมที่ดังอยู่เฉพาะในโสตประสาทคือ
เมื่อศิษย์พร้อม อาจารย์ย่อมปรากฎ
วลีนี้อาจเป็นแค่คำกล่าวขาน ที่ไม่เคยเกิดขึ้นจริง ถ้าศิษย์ยังพยายามไม่มากพอ
= = = = =
บางครั้งเราอาจนั่งท้อแท้ว่า เราพยายามขนาดเน้แล้วแต่ไม่เคยชนะ
การคิดแบบนี้มีแต่จะฉุดรั้งให้เราท้อถอย
แต่จะมีสักครั้งไหม ที่เราแอบมองคนรอบตัวเราอย่างจริงจังว่า
สิ่งที่เราทำ มันเทียบได้ประมาณไหนกับสิ่งที่คนอื่นทำ
ที่มาที่ไปของห้อง 13 เกิดขึ้นจากสองเหตุผล
อย่างแรก อยากตอบแทนน้ำใจน้อง ที่พร้อมจะทำเพื่อส่วนร่วม
ผึ้งยังเชื่อว่า “ทีมที่ดี…เราสร้างได้” ขอแค่…เราเชื่อและลงมือทำ !!!
กับอยากมอบสิ่งดีๆ คืนกลับให้น้องๆ ที่มีน้ำใจช่วยเหลือและเชื่อมั่นในพลังของคำว่า “ทีม”
กาลครั้งนึงก่อนตัดพ้อ มาแอบดูกันไหมว่า เด็กห้อง 13 เค้าทำอะไรกันบ้าง
= = = = =
ทีม 13 ตกลงกันว่า เราจะช่วยกันสร้างฐานข้อมูลของเราให้เข้มแข้ง
(ฐานข้อมูลเป็นความพยายามที่เกิดขึ้นนานแล้ว แต่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เพราะขาดความต่อเนื่องและซึมลงๆ)
เราหวังที่จะสร้างข้อมูลที่หลากหลาย ทันการณ์ แ่ละเป็นระบบ
หลังจากที่ฐานข้อมูลของเราลุ่มๆ ดอนๆ เพราะทำกันไปตามอารมณ์และความสะดวก
เราตกลงว่า เราจะรักษาวินัยทำให้สม่ำเสมอ
เราเลยได้เห็นทุกคนในทีมอัพบทวิเคราะห์โบรกที่ตัวเองรับผิดชอบทุกวัน
และข้อตกลงร่วมกันคือ เราจะอ่านบทวิเคราะห์ที่เราเป็นคนอัพขึ้นระบบเองอย่างน้อยวันละ 1 บท
(จำนวนไม่ใช่ประเด็น เราขอความสม่ำเสมอ ทำให้ได้…ทุกวัน
แล้วเราจะเห็นผลลัพธ์ความเปลี่ยนแปลงของตัวเราเองในวันข้างหน้า)
เราตกลงกันว่า ถ้าบทวิเคราะห์มีการอัพเป้าเพิ่มกะทันหันอย่างมีนัยทั้งในเชิงวันเวลาและราคา
เราทุกคนจะต้องมาถกกันแล้วว่า มันเกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้น
หรือถ้าอยู่ๆ มีบทวิเคราะห์หน้าใหม่โผล่ทะลุขึ้นมากลางป้อง
เราต้องฝึกต่อมเอ๊ะของเราให้ทำงาน ทำไมๆๆๆๆ ไฉนจึงมีบทวิเคราะห์บ.แห่งนี้โผล่มา
นักวิเคราะห์พบเจออะไรที่เป็นนัยแห่งการเติบโตถึงได้หวนมาสนใจ หรือใครจ้างให้เขียนเชียร์
ประสบการณ์การอ่านที่มากพอจะแยกแยะและบอกกล่าวเราเอง
เวลาผ่านมา 5 เดือน ฐานข้อมูลบทวิเคราะห์เราเข้มแข็ง่ขึ้น มีเกือบครบทุกโบรก
และอัพเดทขึ้นระบบแบบทันท่วงที ไม่มีการทิ้งกองไว้ให้เกิดปัญหามาไม่ทันกิน
แม้ว่า…บางวันในช่วงงบออก บทวิเคราะห์ในความรับผิดชอบของบางคนอาจมีถึงวันละ 50 กว่าบท
แต่…ความตั้งใจและความรับผิดชอบที่ต้องเห็นแก่หน้าที่ในส่วนที่รับผิดชอบ
ก็ควบคุมให้ทุกคนอัพขึ้นตามหน้าที่ ไม่มีบ่น ไม่มีท้อ ไม่มีขาดตกบกพร่อง
เห็นแล้ว รู้สึกชื่นใจและอยากบอกว่า “ขอบคุณอย่างที่สุด”
= = = = =
ผ่านไปสักพัก เราก็พบว่า การนั่งเฝ้า Bid Offer ในหุ้นตัวที่เรามีจนเราคุ้นชิน
จะทำให้เรารู้ว่า การเปิดฉากลากราคาควรเกิดขึ้นเมื่อหน้าตา Bid Offer เปลี่ยนไปแบบไหน
เลยกลายเป็นที่มาของการพยายามหาโปรแกรม cap หน้าจอ Bid Offer
เพื่อเก็บเป็น Case Study มานั่งศึกษากันหลังตลาดปิด
(หลายคนทำงานประจำไม่ว่างเฝ้าจอพอที่จะได้เห็นการเปิดศึก เปิดเกมของเจ้า จะได้มาตามศึกษากัน)
แล้วสายเก็บดาต้าก็เสนอให้อัพโหลดวีดีโอ Bid Offer Case Study ขึ้นเฟสเป็นกลุ่มปิด
ไว้มานั่งตามดูไล่หลังสำหรับคนที่สนใจเคสไหนเป็นพิเศษ
เราก็เลยมีช้อตมหกรรมลาก ช้อตทุบจมฟลอร์ของหุ้นดังๆ ในช่วงนาทีประวัติศาสตร์หลายๆ ตัวเก็บไว้ดูเล่น
= = = = =
ผ่านไปอีกสักพัก เราก็ประชุมกันว่า เราจะสแกนการบ้านหุ้นของแต่ละตัวมาเพื่อประชุมนำเสนอว่า
ช่วงนี้เราควรต้องสงสัยหุ้นตัวไหนเพราะอะไร ดีเด่นในอินดิเคเตอร์ไหนอย่างไร
เราก็มีสายระบบในทีมหลักๆ แค่ 2 คน ก็ปรับจูนระบบสแกนให้ตามที่สมาชิกในห้องร้องขอ
ปรับเปลี่ยนและลองสุ่มใช้งานจนคล้ายๆ จะเข้าที่เข้าทางในระดับที่น่าพอใจ
เกิดเป็นชุดสแกนชื่อเก๋ไก๋ ที่เราตั้งกันเอง ว่า
สแกนพี่หรั่ง สแกนหัวเกรียน สแกนน้ำผุด สแกนต้นน้ำ ให้เลือกเทรดตามสไตล์ของแต่ละคน
จากนั้นคนในทีมก็ทยอยรวบรวมเก็บชุดแสกนอัพขึ้นเฟส รวมไว้กับ Bid Offer Case Study
เพื่อให้ทุกคนไว้สืบค้นเทียบเคียงย้อนหลังได้ถ้าต้องการ
(สังเกตได้ว่าเคมีของเป็นสายบ้าเก็บดาต้าเริ่มเช้าสิง 5555)
= = = = =
เมื่อสแกนหุ้นเข้าที่ เราก็เลยเถิดไปถึงอยากให้ทีมระบบรวบรวม Big lot ใส่ลงในฐานข้อมูลไว้ด้วย
เพื่อใช้ประโยชน์ไล่หาสืบค้นย้อนหลังได้ ก็เลยได้ database ในส่วนของ Biglot เพิ่มเข้ามา
ก่อนขยับไปเก็บดาต้าของ Block Trade SSF ช่วงแรกๆ ตั้งแค่ไว้ตามดูย้อนหลัง
แต่ทำไปทำมาผุดไอเดียพัฒนาไปดูการทำรอบของพี่เจ้า
บนสมมติฐานว่า ทุกคนมีตังค์จำกัด เจ้าก็เช่นกัน
เลยพยายามปรับจูนระบบเพื่อกรองหาสเต๊ปการหมุนทำรอบของเจ้า
ผลงานออกมาน่าพอใจ แต่ยังไม่ดี แต่ช่วงนั้นยังไม่มีเวลาปรับปรุงเพิ่มเติม
เลยตกลงกันว่าจะพักค้างไว้แบบนี้ก่อน (เรื่องของเรื่องสไลด์มีทติ้งทับหัวกันอยู่ 5555)
= = = = =
แล้วเราก็ขยับมามองหาข้อมูลสายพื้นฐานเพื่อเติมเต็มส่วนที่เป็นจุดอ่อนของห้อง
การเก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสารเลยเกิดขึ้น
มีการเก็บสรุปตัดข่าว จากทันหุ้น ข่าวหุ้น หุ้นอินไซด์ และนสพ.ธุรกิจอื่นๆ ตามหมวดหุ้น
แยกเป็นไฟล์อย่างชัดเจน มีไม่เว้นแม้กระทั่งคอลัมน์ซุบซิปนินทาหุ้น แบบเจ๊เยลเลน แม่นางโมนิก้า
เรื่อยไปจนถึงการเก็บสรุป Opp Day รายไตรมาส ที่รวบรวมเอาจากน้องๆ นอกห้องในห้อง
ก่อนลากยาวไปลุยเก็บ Opp Day มาได้ครบ 1 ไตรมาส เริ่มเห็นโอกาสการลงทุนจากการไปเยี่ยมชมกิจการ
เลยงอกต่อยอดมาขอเก็บข้อมูล CV เพิ่ม และบานปลายไปจนถึง AGM
ซึ่งจริงๆ ทีมเราแทบไม่ได้ออกแรงอะไรมากมาย แต่เป็นน้ำใจจากน้องๆ สายตรง
ที่มีเรคคอร์ดข่าวสารเก็บไว้อยู่แล้ว กับกลุ่มที่สนใจถอดเทปสรุปออฟเดย์
กับสายตรงเยี่ยมชมกิจการที่จดสรุปมาให้เสร็จสรรพ
ทีมเก็บข้อมูลก็สบายไป แค่จัดหน้าเซฟไฟล์แล้วอัพขึ้นระบบ…สบายแฮไป
ด้วยน้ำใจและการทำเพื่อส่วนรวม ทีมเราเลยมีข้อมูลที่พร้อมระดับนึงสำหรับการทำการบ้านอย่างเป็นระบบ
ที่เราแน่ใจว่า การบ้านเราจริงจังกว่าแบบฝึกหัดท้ายชม.ของใครบางคน
และนี่คือ เรื่องเล่า ….กาลครั้งนึงก่อนตัดพ้อ
คุณภาพของการบ้านที่ต่างกันย่อมนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ต่างกัน
การทำการบ้านจะไม่เหนื่อยยาก หากฝึกทำสม่ำเสมอ และทำพร้อมกันเป็นทีม
ทีมที่ดีสร้างได้ … ขอแค่เราเชื่อและลงมือทำ
เพราะสิ่งที่เล่ามาทั้งหมดเป็นสิ่งที่ลงมือทำจริงจังเมื่อ 5 เดือนที่แล้ว
จากการร่วมมือกันของสมาชิกแค่ 11 คน ที่มีใจเกินร้อยให้กับคำว่า…ทีม
= = = =
การร่วมหัวจมท้ายลงแรงกันของห้อง 13 (ทีี่มีแค่ 11 คน) ผ่านมาได้สักพัก
มีคนขอลาออก 2 คงทนไม่ไหว บ้าไม่ถึงขั้นจะอยู่ร่วมห้องหายใจเป็นหุ้นไปด้วยกัน)
พิสูจน์ตัวมันเองแล้วว่า เคมีแบบนี้ที่เราต้องการให้คนในทีมมี
เกิดมาพร้อมจะทำเพื่อผู้อื่น เกิดมาพร้อมจะเป็นผู้ให้ก่อน
เกิดมาบ้าพอที่จะลงแรงทำในสิ่งที่ตอนนี้ยังไม่เห็นค่า ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์
(อย่าลืมว่าคนทำเป็นสายกราฟแทบทุกคน แต่…กำลังนั่งเก็บดาต้าสายพื้นฐาน)
เกิดมาเพื่อทำโดยไม่ต้องคิดว่า เราทำมากกว่าใคร …ใครทำน้อยกว่าเรา …ใครไม่ทำอะไรเลย
เพราะการคิดแบบนี้ รั้งแต่ปิดกั้นให้เราหาข้ออ้างที่จะไม่ทำ และเริ่มตัวทำตัวเป็นหินถ่วงกลุ่ม
ก่อนที่จะนั่งบ่นท้อแท้ว่า ทำไมคนอื่นอย่างนั้น คนนี้อย่างงี้ ทำไมเราไม่เคยมี Big Shot แบบเค้าเลย
ให้ถามตัวเองก่อนว่า ที่เราทำอยู่คือ การบ้านหรือแค่แบบฝึกหัดท้ายชัั่วโมง
และเรามีทีมที่ดีพอที่จะช่วยผลักดันให้เราเดินไปข้างหน้าแล้วหรือยัง
ถ้ายัง… อย่าเสียเวลาหา แต่ลงมือสร้างมันขึ้นมา
#ทีมที่ดีอยู่ที่เราเชื่อและลงมือทำ
BDRM เป็นเพียงนักลงทุนเม่าๆ คนหนึ่ง ที่หลงใหลการลงทุนในตลาดหุ้น มากพอที่จะนั่งดูเฝ้าจอ ดูกราฟ อ่านข่าว แอบดูงบ แกะรอยเจ้ามือ นินทารายใหญ่ได้ทั้งวัน การนั่งสังเกตความเป็นในตลาดทำให้สัมผัสได้ว่า ตลาดหุ้นสีเทาแห่งนี้มีระบบและเงื่อนไขที่เอื้อต่อการสูบเงินจากเม่าไปให้เจ้า ซึ่งเป็นที่มาของเพจการลงทุน BDRM Blog ที่หวังให้เม่ารู้เท่าทันตลาดหุ้นเท่าที่กำลังความสามารถของเม่าตัวนี้พึงทำได้